พอล เซน พิลเซอร์ (Paul Zane Pilzer) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน เป็นผู้ที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าอย่างถูกต้องมาเเล้วถึงปรากฎการณ์น่าระทึกใจของระบบอินเตอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาลในชีวิตประจำวันเเละอนาคต
อย่างกระเเสธุรกิจทำงานที่บ้าน โดยมีการจัดตั้งบริษัท Corporation สำนักงาน สร้างระบบขึ้นมา ซึ่งเป็นการใช้เงินลงทุนจำนวนค่อนข้างมาก ธุรกิจเเฟรนไซส์ Franchise โดยการลงทุนซื้อระบบสำเร็จรูป เปิดกระจายสาขา ซึ่งเป็นการใช้เงินลงทุนปานกลางขึ้นอนวทางที่ช่วยให้คุณสร้างองค์กรธุรกิจเครื่อข่ายเเบบระยะยาวอย่างมั่นคงยู่กับประเภทธุรกิจ ส่วนธุรกิจ Network Marketing ธุรกิจที่เราทำ โดยจดทะเบียบเข้าร่วมกับธุรกิจสำเร็จรูป เป็นระบบที่รวมธุรกิจในระบบบริษัท Corporation และ เเฟรนไซส์ Franchise เอาไว้รวมกันทำให้ขนาดเล็กลง มีข้อเด่นคือ ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าของ เเฟรนไซส์ส่วนตัว ที่สามารถขยายสาขาต่อไปได้ เป็นการใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อย
เคยทำงานเป็น Financial controller ในกระทรวงที่อายุน้อยที่สุด และเคยเป็นครูสอนในมหาลัย แต่ใน ช่วงเวลามากกว่า 11 ปี ที่ผ่านมา เขามองหา Passive income มาตลอด เรียนรู้วิธีสร้างโมเดลชีวิตเพื่อคำว่า "อิสระภาพ" มามากมาย!! ได้ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น เขียนหนังสือทำ Franchise ต่าง ๆ มีรายได้หลายล้านเหรียญสหรัฐ ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เพียงแค่ 4 เดือน ที่มาร่วมกับ Unicity ท่านได้เจอโมเดล Financial Freedom แล้ว ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อไปใช้ชีวิตที่มีความสุข ตอนนี้ทีมได้ขยายเติบโตไปทั่วทวีป ร่วมถึง ahrain Oman Kywait Jordan Algeria Morocco และอื่นๆ อีกมากมายทั่วตะวันออกกลาง
นักการตลาดชั้นนำในยุคปัจจุบัน เช่น Dr.Cgarlds W.King ศาสตราจารย์ด้านการตลาด มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ชิคาโก ได้กล่าวในหนังสือชื่อ “The New Professional” ว่า ระบบธุรกิจ Network Marketing เป็นระบบธุรกิจคลื่นลูกใหม่ สำหรับนักประกอบการรุ่นใหม่ ที่จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเเละทรงพลัง จะครอบครองตลาดในศตวรรษที่ 21 ตามเเนวโน้มของเศรษฐกิจใหม่ ที่ผู้คนจำนวนมากจะถูกผลักออกจากสถานภาพลูกจ้างด้วยการลดขนาดขององค์กรต่างๆ ลง เพื่อลดค่าใช้จ่าย โดยการทดเเทนด้วยพลังอำนาจของระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่สามารถทำงานได้มากกว่า เเม่นยำกว่า ต้นทุนต่ำกว่า เเละปัญหาน้อยกว่า
Network Marketing คือ ระบบการทำอาชีพอิสระ หรือธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กด้านการตลาดสำเร็จรูปเเบบใหม่ ที่ได้พัฒนาเอาระบบการสื่อสารต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดอย่างเต็มรูปเเบบบ ผู้ทำธุรกิจสามารถทำงานจากที่บ้านของตนเอง หรือสถานที่ใดก็ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องเปิดเป็นบริษัท และไม่ต้องลงทุนตกเเต่งหน้าร้าน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในยุคปัจจุบัน
ระบบ Network Marketing เป็นเรื่องดีสำหรับผู้ประกอบรุ่นใหม่ที่เบื่อข้อจำกัดของระบบบริษัทเเละเริ่มไม่มั่นใจกับความมั่นคงของงานประจำ มองหาธุรกิจของตนเองที่เริ่มต้นง่าย เป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถให้ความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวและก้าวหน้าอย่างนั่งยืน ได้มากกว่า
กลุ่มผู้คนที่ทำงานในระบบ Network Marketing โดยที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจโดยที่ไม่ใช่นายจ้างลูกจ้าง โดยมีบริษัทเเม่เป็นเเกนหลักในการจัดการภาระพื้นฐานทางธุรกิจอย่างเดียวกับระบบเเฟรนไซส์ Franchise เเละจัดสรรผลตอบเเทนตามผลงานของเเต่ละคนอย่างยุติธรรมในรูปแบบ Performance based compensation คนทำธุรกิจสามารถทุ่มเทพลัง ใช้ศักยภาพของตนเองอย่างสูงสุด เพื่อสร้างธุรกิจที่มั่งคงเเละสร้างผลตอบเเทนอย่างไม่มีขีดจำกัด เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายโอนเป็นมรดกให้ลูกหลานต่อไปได้ เสมือนการถือหุ้นบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาอย่างไม่สิ้นสุด
Network Marketing จากเดิมเคยเข้าใจว่าเป็นธุรกิจขายตรงแบบ Door to Door หรือเคาะประตูขายสินค้าตามบ้าน เป็นที่เกรงกลัวของคนจำนวนมากที่ไม่ชอบงานขาย ในลักษณะที่ต้องง้อคนซื้อ ปัจจุบันรูปเเบบธุรกิจ Network Marketing ได้ถูกปฏิวัติเเละเปลี่ยนแปลงไปเป็นระบบธุรกิจยุคใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพด้วยการสื่อสารทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่มีกระบวนการนำพาผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค ดำเนิน การผ่านระบบสื่อสารเทคโนโลยีคนรุ่นใหม่ ได้เริ่มต้นเข้าสู่การเรียนรู้เเละทำความเข้าใจระบบการตลาดนี้ และนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่ทางเทคโนโลยีการสื่อสาร Internet เเละ E-commerce ระบบไปรษณีย์ เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจที่ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างรายได้มหาศาลจริงๆ
ผลกระทบของกระเเสเศรษฐกิจใหม่ มีพลังที่อาจสร้างความเปลี่ยนเเปลงให้เกิดขึ้นในสังคมเเละมีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนมากมาย นับตั้งแต่ค่าครองชีพมีเเต่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สภาพเเวดล้อมการทำงานที่กดดันด้วยความจำเป็นที่ต้องสร้างผลงาน ใช้เวลาทำงานไม่มีวันหยุด แข่งขันกันเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อรายได้ไม่สมดุลด้วยรูปเเบบการใช้ชีวิตของสังคมบริโภคมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อรายได้ การบริโภคที่มากขึ้น การใช้บัตรเคดิตเเละการติดหนี้บัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น คุณภาพชีวิตที่ต่ำลง เหมือนผู้คนในสังคมตกอยู่ในสภาพสนามแข่งหนู ที่เเทบจะไม่มีเวลาหยุดคิดถึงชีวิตของตนเองในอนาคต
ความเปลี่ยนเเปลงของเศรษฐกิจใหม่ เราจะเห็นวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตามโลกาภิวัฒน์ รูปเเบบการทำงานเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สามารถทำธุรกรรมได้ทั่วโลก สร้างรายได้อย่างมหาศาลโดยอาศัยระบบการค้าขายบนเครือข่าย หรือธุรกรรมอินเตอร์เน็ตในสภาพการทำงานอิสระ เเละด้วยนวัตกรรมความเจริญเติบโตเเบบก้าวกระโดดไปทั่้วโลก
● ข้อมูลการสำรวจ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
86% ของคนธุรกิจที่บ้านมีความสุขจากการทำงานของตนเองมากกว่าการทำงานให้คนอื่น
84% แนะนำโอกาสการทำงานที่บ้านให้กับผู้อื่น
60% คิดว่าธุรกิจส่วนตัวที่บ้านให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่าหรือเท่ากับที่คาดหวัง
20% เจ้าของธุรกิจที่บ้าน รายงานว่า ธุรกิจของเขามีรายรับ ระหว่าง US$ 100,000 - US$ 500,000 ในปีที่ผ่านมา
14% จ่ายเงินให้กับตัวเองปีละ ปีละ US$ 50,000 - US$ 250,000
● มีคนเข้าสู่ธุรกิจทำงานที่บ้าน 8,000 คน/วัน
หรือประมาณ 1 คนทุก 11 วินาที
ที่มา : Figures Success Magazine