มร.คริสโตเฟอร์ คิม ประธานบริหาร ประจำภาคพื้นเอเชีย - แปซิฟิก บริษัท ยูนิซิตี้ มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้เตรียมแผนการขยายธุรกิจเพิ่มเติมที่พม่าและบรูไน ที่สำคัญ ขณะนี้กำลังมองตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศบาห์เรน ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปยังประเทศ อื่นๆ ใกล้เคียงได้ และบริษัทได้ทดลองตลาด แล้วโดยเปิดศูนย์บริการที่ประเทศดูไบ
"ตลาดต่างประเทศเติบโตเร็วมาก และเรากำลังวางแผนที่เปิดสาขาในแถบตะวันออกกลางด้วย เพราะตะวันออกกลาง เป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการอยากให้เราไปเปิดความท้าทายคือ กลุ่มนี้เป็นกลุ่ม ประเทศที่ร่ำรวย มีศักยภาพในการทำธุรกิจ มาก และส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและน้ำหนักตัว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความอ้วน จากที่มีโอกาสคุยกับคุณหมอคนที่เข้ามารักษาโรคหัวใจกลุ่มตะวันนออก-กลางมีเยอะมาก เราคิดว่าผลิตภัณฑ์ของ ยูนิซิตี้จะตอบโจทย์และช่วยพวกเขาได้" มร.คริสโตเฟอร์ คิม กล่าว
โดยสินค้าที่จะนำเข้าไปเปิดตลาดแถบตะวันออกกลางจะนำเข้าจากบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังจะมาจากประเทศไทยด้วย เนื่องจากเวลานี้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตภัณฑ์สินค้าหลายประเภทที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ต้องการซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เจอปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎหมาย หรือด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ในส่วนของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ.2558 บริษัทได้ทำการขยายธุรกิจสู่ประเทศเพื่อนบ้าน เปิดสำนักงาน ยูนิซิตี้ ประจำประเทศเวียดนาม เมืองฮานอย และสำนักงานยูนิซิตี้ประจำประเทศกัมพูชา กรุงพนมเปญ ซึ่งนับว่าเป็นการขยายฐานธุรกิจของยูนิซิตี้ และเปิดโอกาสให้ประชากร ในประเทศนั้นๆ มีรายได้ รวมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมของการทำงานร่วมกันของเครือข่ายยูนิซิตี้ในประชาคมอาเซียน เพื่อช่วยขับเคลื่อนยูนิซิตี้ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
ส่วนแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ประธานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตลาดขายตรงโมนาวี ในมาเลเซีย และสิงคโปร์ไปแล้ว และประเทศไทยเป็นประเทศ ที่ 3 ในแถบอาเซียน โดยมีแผนผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน บริษัทยืนยันจะดำเนินตามแผนให้สำเร็จเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา และลาว โดยยังมองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
ส่วนแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ประธานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดตลาดขายตรงโมนาวี ในมาเลเซีย และสิงคโปร์ไปแล้ว และประเทศไทยเป็นประเทศ ที่ 3 ในแถบอาเซียน โดยมีแผนผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน บริษัทยืนยันจะดำเนินตามแผนให้สำเร็จเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา และลาว โดยยังมองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
ขอบคุณสยามธุรกิจ : วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ฉบับที่ 233
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น